เมื่อไรที่คุณแต่งหน้าและแน่นอนว่า “อายแชโดว์” ย่อมเป็นหนึ่งในไอเท็มชิ้นสำคัญที่คุณไม่มีทางพลาดอย่างยิ่ง เพราะสีสันสวยงามของพาเลทอายชาโดว์แต่ละสีนั้นล้วนมียั่วยวนให้เลือกใช้หลากสี แต่ละสีเมื่อนำมาแต่งแต้มบนเปลือกตา ย่อมทำให้ดวงตาของเราสวยเจิดจรัสมากขึ้น ทว่าปัญหาของการลงอายแชโดว์นั้นในสาวๆ มือใหม่บางคนอาจจะแต่งออกมาแล้วไม่สามารถเบลนด์พื้นผิวให้เรียบเนียนสม่ำเสมอได้ จึงไม่เกิดความกลมกลืนไปกับเปลือกตา ดังนั้น เราจึงควรเลือกใช้เคล็ดลับเหล่านี้ในการแต่งเติมดวงตาให้สวยด้วยการเลือกใช้อายแชโดว์อย่างถูกวิธีนั่นเอง
1. ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ Eye Shadow ที่มีคุณภาพ เพราะเมื่อนำมาแต่งแล้วมันจะไม่จับตัวเป็นก้อนหรือเป็นชั้นๆ ตามรอยพับของเปลือกตา
2. การเลือกใช้แปรงควรเลือกแปรงสำหรับแต่งอายแชโดว์ที่เหมาะสม ซึ่งมีให้เลือกด้วยกันหลายแบบและแต่ละแบบก็มีลักษณะการนำมาใช้งานที่แตกต่างกันไป เช่น แปรงหัวตัดจะเหมาะสำหรับการลากเส้นที่คมชัด ทำให้การลงสีเกิดความโดดเด่นชัดเจนยิ่งขึ้น ขณะที่การเบลนด์เพื่อให้เกิดสีที่กลมกลืนกับผิวนั้นจะต้องยกหน้าที่นี้ให้แก่แปรงหัวกลมมน นอกจากนี้แล้ว ขนาดของหัวแปรงอายแชโดว์ควรมีความแตกต่างกันไป ทั้งนี้ก็เพื่อให้ผลลัพธ์ในการตกแต่งดวงตาออกมามีความพิเศษสวยงามอย่างแตกต่างด้วยเช่นเดียวกัน
เคยมั้ยคะสาวๆ เวลาที่เราซื้อพาเลทอายแชโดว์หรือตลับอายแชโดว์สีสันที่ต้องการมาทีไร มันมักจะมีแปรงทาตาลัษณะหัวฟองน้ำติดมาด้วยเสมอ และคุณอาจจะสงสัยว่าแปรงนี้มีเอาไว้ทำหน้าที่ในการแต่งตาซึ่งแตกต่างจากพู่กันหรือแปรงอายแชโดว์ทั่วไปอย่างไร แท้จริงแล้ว แปรงทาตาหัวฟองน้ำนี้มันมีคุณสมบัติช่วยสร้างความคมเข้มให้สีสันบนดวงตาได้อย่างชัดเจนมากขึ้นนั่นเอง เพราะแปรงอายแชโดว์จะไม่ให้การลงสีที่หนักแน่นเพียงพอ เพียงแต่จะช่วยเบลนด์สีให้ออกมากลมกลืนกับผิวและเกิดความเนียนสวยอย่างเป็นธรรมชาตินั่นเองค่ะ
สำหรับสาวๆ ที่ทาอายแชโดว์เนื้อแมตช์นั้นคุณย่อมได้สีสันที่ค่อนข้างชัดเจนสมใจ แต่หากเลือกใช้แปรงทาตาหัวฟองน้ำแล้วล่ะก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาในการเบลนด์ให้สวยขึ้นได้ยาก แต่หากใช้อายแชโดว์ประกายชิมเมอร์เบลนด์ก็จะให้ความเรียบเนียนง่ายขึ้นมากกว่า อย่างไรก็ตาม หากคุณใช้กับแปรงทาตาหัวฟองน้ำแล้ว ประกายชิมเมอร์เล็กๆ นั้นก็อาจจะไปเกาะค้างตามร่องรอยพับหรือติดร่องริ้วรอยบนเปลือกตาได้ง่ายเช่นกัน ดังนั้น หากคุณเลือกใช้แปรงดังกล่าวก็ควรพิถีพิถันและเรียนรู้เทคนิคในการแต่งตาด้วยอายแชโดว์ทั้ง 2 ประเภทนี้ให้มากขึ้นจะดีที่สุดค่ะ
หากปรารถนาการแต่งเติมดวงตาให้งดงามมีประกายแวววาวสะท้อนอย่างมีสุขภาพดี แนะนำให้ใช้อายแชโดว์เนื้อเหลวและเนื้อครีมค่ะ เพราะให้ความเนียนสวยได้ดียิ่งกว่า แถมยังมีสารให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ทำให้เมคอัพติดทนนานมากขึ้นอีกด้วย สำหรับขั้นตอนในการแต่งนั้นคุณสามารถทาอายแชโดว์ลงบนเปลือกตาได้เลยด้วยการใช้ปลายนิ้วหรือใช้แปรงพิเศษ (synthetic eyeshadow brush) เพื่อเบลนด์ให้เกิดความกลมกลืนและออกมาสวยอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น
อายไพร์เมอร์ก็คือ การลงรองพื้นสำหรับเปลือกตาก่อนการลงอายแชโดว์นั่นเอง ซึ่งอายไพร์เมอร์นั้นจะมีคุณสมบัติช่วยในการควบคุมความมันบนเปลือกจา ทำให้สีของอายแชโดว์ติดทนนานมากขึ้น อีกทั้งยังทำให้สีสันมีความโดดเด่นชัดเจนและแลดูสวยงามมากกว่าเมื่อเทียบกับการทาอายแชโดว์แบบเปลือยๆ ลงไปโดยที่ไม่ได้ลงอายไพร์เมอร์ก่อนเลย
นอกจากเคล็ดลับการใช้อายแชโดว์ให้ถูกต้องและเหมาะสมแล้ว การทาอายแชโดว์ให้ออกมาสวยดั่งใจ คุณสาวๆ จะต้องเลือกทาให้เหมาะสมกับลักษณะตาของคุณด้วยค่ะ เพราะคนเรามีลักษณะดวงตาที่แตกต่างกัน ดังนั้น การเลือกทาอายแชโดว์ในแบบที่เหมาะสมกับตาจะยิ่งทำให้ลุคดวงตาสวยงาม โดดเด่นมากยิ่งขึ้นได้นั่นเอง โดยก่อนอื่นคุณจะต้องรู้ก่อนค่ะว่าตาของคุณมีลักษณะแบบใด หากรู้แล้วจะได้เลือกทาอายแชโดว์สีที่เหมาะสมให้ออกมาสวยยิ่งขึ้นยังไงล่ะ
ตาชิด – สาวคนไหนที่มีตาชิด แนะนำให้ทาอายแชโดว์สีอ่อนบริเวณหัวตาและทาสีเข้มที่บริเวณหางตา เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ดวงตาที่ขิดกันแลดูห่างกันมากขึ้นได้แล้วค่ะ
ตาลึก – สาวที่มีตาลึกไปในเบ้าตามากจะยิ่งทำให้มีเปลือกตาน้อยกว่าปกติมากขึ้น ดังนั้น แนะนำให้ทาอายแชโดว์สีอ่อนบนส่วนของเปลือกตา โดยเน้นตรงจุดที่สามารถสังเกตได้อย่างชัดเจน จากนั้นทาอายแชโดว์สีเข้มระหว่างช่วงรอยพับเปลือกตาและในส่วนของหนังตาที่อยู่เหนือตรงรอยพับตาขึ้นไป เท่านี้ก็จะช่วยทำให้ดวงตาแลดูกลมโตและได้ลุคที่อิ่มเอิบมากขึ้นแล้ว
ตาตก – สาวคนไหนที่หางตาอยู่ต่ำกว่าหัวตาล่ะก็ คุณสามารถใช้เทคนิคในการเบลนด์สีอายแชโดว์ โดยเริ่มเบลนด์ตั้งแต่หางตาไล่เข้ามาจนถึง 2/2 ของความยาวรูปตาได้เลย จากนั้นกรีดอายไลเนอร์ให้ชิดแนวขนตาตามด้วยการดัดขนตาแล้วจึงปัดมาสคาร่าเพื่อสร้างความสมดุลให้กับหางตาตกได้กลับมาสวยงามเป็นธรรมชาตินั่นเอง
หนังตาพับเป็นชั้น – สาวๆ บางคนมีปัญหาตาตี่หรือหนังตาพับเป็นชั้น มักเป็นปัญหาที่แก้ไขยากอย่างยิ่ง ดังนั้น จึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องอาศัยแต่เทคนิคในการแต่งหน้าเข้าช่วย นอกจากนี้ คุณยังควรหลกเลี่ยงการทาอายแชโดว์ชนิดที่ผสมชิมเมอร์หรือแบบที่มีประกายวิบวับ และควรเลือกใช้แต่อายแชโดว์เฉพาะเนื้อแมตช์เท่านั้น
ตาโปน – สาวตาโปน คุณสามารถอำพรางดวงตาไม่ให้โปนมากขึ้นด้วยการทาอายแชโดว์สีเข้ม และควรหลีกเลี่ยงการทาอายแชโดว์สีอ่อน เพราะไม่เช่นนั้น มันจะยิ่งเกิดการสะท้อนแสงทำให้ดวงตาของคุณดูบวมและดูโปนชัดเจนมากขึ้นนั่นเอง
ตากลม – สาวตากลม คุณควรเพิ่มความยาวให้แก่รูปตาค่ะ และอายแชโดว์สีกลางก็คือ โทนสีที่เหมาะสมซึ่งสามารถปรับแก้ดวงตากลมๆ ให้เรียวสวยขึ้นได้ โดยทาอายแชโดว์โทนสีกลางบนเปลือกตาขึ้นไปยังรอยพับตา จากนั้นทาอายแชโดว์สีเข้มตรงหางตาแล้วทาไล่เฉียงให้สูงขึ้นไปยังหางคิ้ว เพียงเท่านี้ก็จะช่วยปรับลุคดวงตากลมๆ ของคุณให้สวยเรียวรีอย่างเป็นธรรมชาติได้แล้ว
ตารูปทรงเมล็ดอัลมอนด์ – สาวคนไหนที่มีดวงตาลักษณะรูปทรงเมล็ดอัลมอนด์ บอกเลยว่าคุณเป็นสาวที่มีดวงตาสวยงามสมบูรณ์แบบมากที่สุด และสำหรับการทาอายแชโดว์ในดวงตาลักษณะดังกล่าวนั้น คุณสามารถใช้เทคนิคการแต่งตาด้วยอายแชโดว์สีสันสวยงามได้ตามต้องการทุกแบบเลยค่ะ
1. ลงรองพื้นเบสหรือคอลซีลเลอร์บางๆ บนเปลือกตาจนทั่วก่อนจากนั้นจึงทาทับด้วยแป้งฝุ่น ซึ่งเป็นการเตรียมผิวก่อนอายแชโดว์นั่นเอง
2. การใช้แปรงแต้มอายแชโดว์เนื้อฝุ่นทาบนเปลือกตา ควรเคาะให้อายแชโดว์เนื้อฝุ่นหลุดออกจากแปรงก่อน เพื่อกำจัดส่วนเกินออกไป เวลาเบลนด์จะได้เกิดความกลมกลืนกับผิวง่ายมากขึ้น
3. ทาอายแชโดว์สีอ่อนสุดไล่ไปยังสีที่เข้ม โดยทาสีอ่อนๆ ให้กลายเป็นสีพื้นบริเวณเปลือกตาจนทั่ว และทาสีกลางในบริเวณหัวตาจากนั้นจึงทาสีเข้มที่สุดบริเวณหางตาและเส้นขอบตาค่ะ นอกจากนี้ ไม่ควรทาอายแชโดว์ในส่วนของหัวตาและหางตามากเกินไป ไม่เช่นนั้นจะยิ่งทำให้ดวงตาดูดุเข้มเกินไปได้
4. สำหรับเทคนิคการทาอายแชโดว์ให้ติดทนนานตลอดวันนั้น ควรลงด้วยอายแชโดว์เนื้อครีมก่อนอันดับแรกเสมอ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้สีอายแชโดว์ติดทนนานมากขึ้นได้แล้ว
5. หากทาอายแชโดว์เข้มมากเกินไปและต้องการลดออกเพื่อให้สีซอล์ฟลง สามารถใช้คอตตอลบัตค่อยๆ แตะออกอย่างเบาๆ ได้เลย จากนั้นให้กลบความเข้มของสีด้วยการนำแป้งฝุ่นมาตบเบาๆ อีกครั้งก่อนที่จะลงสีอายแชโดว์ซ้ำอีกรอบ
Tip : เพราะเปลือกตาเป็นส่วนของผิวที่มีความบอบบางมากที่สุด ดังนั้น หลังจากคุณกลับมาจากนอกบ้านแล้ว อย่าลืมเช็ดหน้าให้สะอาดด้วยคลีนซิ่งออยล์ แล้วทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยนด้วยผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าจนสะอาดหมดจด เพียงเท่านี้ก็ทำให้การแต่งหน้าแต่งตาด้วยอายแชโดว์และสีสันของเครื่องสำอางต่างๆ ไม่ทำให้ผิวของคุณเสียตามมาแล้วค่ะ
อย่าลืมนะคะสาวๆ การทาอายแชโดว์ให้ออกมาสวยดั่งใจ เราจะต้องมีเคล็ดลับการเลือกใช้อายแชโดว์และเทคนิคในการทาให้เหมาะสมที่มีความแตกต่างกันไป ดังนั้น เพื่อให้การแต่งหน้าของคุณออกมาสวยสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะทาอายแชโดว์เฉดสีไหนหรือเนื้ออายแชโดว์ประเภทใด การแต่งหน้าให้เข้ากับตัวคุณเองมากที่สุดนับว่าสวยเหมาะสมที่สุดแล้วค่ะ
ส่งมาหลายออเดอร์แล้วน๊าา ขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่อุดหนุนและเป็นลูกค้าที่ดีเสมอมาจ๊ะ
รูปภาพที่โพสต์โดย YuDoangGoRo (@yudoanggoroshop) เมื่อ